วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558



เจ้าสาวชาวยิว” (ค.ศ. 1665-1669) โดย แรมบรังด์

จิตรกรรมยุคทองของเนเธอร์แลนด์ (Dutch Golden Age painting) คือช่วงระยะหนึ่งของประวัติศาสตร์จิตรกรรมของเนเธอร์แลนด์ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ราว ค.ศ. 1584 มาจนถึง ค.ศ. 1702


เมื่อการค้าขาย วิทยาศาสตร์ และศิลปะของเนเธอร์แลนด์เป็นทีเจริญถึงจุดสูงสุดและเลื่องลือไปทั่วโลก จิตรกรของสมัยนี้สร้างแบบฉบับการเขียนงานจิตรกรรม และ ทิ้งอิทธิพลงานที่เป็นอนุสรณ์ต่อนักเขียนภาพรุ่นต่อมาเป็นอันมาก    ลักษณะ ของจิตรกรรมของดัตช์ ที่แตกต่างจากการเขียนจิตรกรรมของยุโรปก่อนหน้านั้นคือ จำนวนการเขียนภาพที่เกี่ยวกับศาสนาที่ลดน้อยลง ที่มีสาเหตุมาจากการที่นิกายคาลวินห้ามการตั้งภาพเขียนทางศาสนาในวัด   แต่ ก็ยังอนุญาตให้ตั้งภาพเขียนที่เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นการส่วนตัวได้ ในที่อยู่อาศัย ลักษณะที่เด่นของยุคนี้คือการเขียนภาพประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่จิตรกรรมศาสนาที่แบ่งออกเป็นประเภทย่อยมากมาย เช่นการ เขียนเกี่ยวกับชีวิตของเกษตรกร ภูมิทัศน์ นครทัศน์ ทะเลทัศน์ ภูมิทัศน์กับสัตว์ และ ภาพนิ่งแบบต่างๆ ภาพเขียนเหล่านี้มามีต่ออิทธิพลของจิตรกรดัตช์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 อย่างชัดเจน   ในช่วงนี้ ก็มีทฤษฎีที่แพร่หลายในการการจัดจิตรกรรมตาม ที่เรียกว่า ลำดับคุณค่าของศิลปะ” (Hierarchy of genres) ซึ่งถือว่าศิลปะบางประเภทมีคุณค่าที่สูงกว่าประเภทอื่น ตามลำดับที่ลดหลั่นกันไป

 

โดยถือว่า จิตรกรรมประวัติศาสตร์เป็นจิตรกรรมที่มีคุณค่าสูงที่สุดในบรรดาประเภทจิตรกรรมทั้งหมด ซึ่งทำให้จิตกรต่างก็ต้องการแต่จะเขียนภาพประเภทนี้ แต่ในช่วงนั้นเป็นภาพที่ไม่มีตลาด  ซึ่งทำให้จิตรกรต้องหันไปเขียน ภาพประเภทอื่นที่รวมทั้งภาพเหมือน หรือ ภาพชีวิตประจำวันซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดมากกว่า ลำดับคุณค่าของศิลปะลดหลั่นกันตามลำดับดังนี้

จิตรกรรมประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปะคริสต์ศาสนา

จิตรกรรม ภาพเหมือน

จิตรกรรมภาพ ชีวิตประจำ วัน

จิตรกรรมภูมิทัศน์ รวมทั้งภูมิทัศน์เมือง

จิตรกรรม ภาพนิ่ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น