“เจ้าสาวชาวยิว” (ค.ศ. 1665-1669) โดย แรมบรังด์
จิตรกรรมยุคทองของเนเธอร์แลนด์ (Dutch
Golden Age painting) คือช่วงระยะหนึ่งของประวัติศาสตร์จิตรกรรมของเนเธอร์แลนด์
ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ราว ค.ศ. 1584 มาจนถึง ค.ศ. 1702
เมื่อการค้าขาย วิทยาศาสตร์ และศิลปะของเนเธอร์แลนด์เป็นทีเจริญถึงจุดสูงสุดและเลื่องลือไปทั่วโลก
จิตรกรของสมัยนี้สร้างแบบฉบับการเขียนงานจิตรกรรม และ
ทิ้งอิทธิพลงานที่เป็นอนุสรณ์ต่อนักเขียนภาพรุ่นต่อมาเป็นอันมาก ลักษณะ ของจิตรกรรมของดัตช์
ที่แตกต่างจากการเขียนจิตรกรรมของยุโรปก่อนหน้านั้นคือ
จำนวนการเขียนภาพที่เกี่ยวกับศาสนาที่ลดน้อยลง
ที่มีสาเหตุมาจากการที่นิกายคาลวินห้ามการตั้งภาพเขียนทางศาสนาในวัด แต่
ก็ยังอนุญาตให้ตั้งภาพเขียนที่เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นการส่วนตัวได้
ในที่อยู่อาศัย ลักษณะที่เด่นของยุคนี้คือการเขียนภาพประเภทอื่นๆ
ที่ไม่ใช่จิตรกรรมศาสนาที่แบ่งออกเป็นประเภทย่อยมากมาย เช่นการ
เขียนเกี่ยวกับชีวิตของเกษตรกร ภูมิทัศน์ นครทัศน์ ทะเลทัศน์ ภูมิทัศน์กับสัตว์
และ ภาพนิ่งแบบต่างๆ
ภาพเขียนเหล่านี้มามีต่ออิทธิพลของจิตรกรดัตช์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 อย่างชัดเจน ในช่วงนี้ ก็มีทฤษฎีที่แพร่หลายในการการจัดจิตรกรรมตาม
ที่เรียกว่า “ลำดับคุณค่าของศิลปะ” (Hierarchy of
genres) ซึ่งถือว่าศิลปะบางประเภทมีคุณค่าที่สูงกว่าประเภทอื่น
ตามลำดับที่ลดหลั่นกันไป
โดยถือว่า “จิตรกรรมประวัติศาสตร์” เป็นจิตรกรรมที่มีคุณค่าสูงที่สุดในบรรดาประเภทจิตรกรรมทั้งหมด
ซึ่งทำให้จิตกรต่างก็ต้องการแต่จะเขียนภาพประเภทนี้
แต่ในช่วงนั้นเป็นภาพที่ไม่มีตลาด ซึ่งทำให้จิตรกรต้องหันไปเขียน
ภาพประเภทอื่นที่รวมทั้งภาพเหมือน หรือ
ภาพชีวิตประจำวันซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดมากกว่า
ลำดับคุณค่าของศิลปะลดหลั่นกันตามลำดับดังนี้
จิตรกรรมประวัติศาสตร์
รวมทั้งศิลปะคริสต์ศาสนา
จิตรกรรม ภาพเหมือน
จิตรกรรมภาพ ชีวิตประจำ วัน
จิตรกรรมภูมิทัศน์
รวมทั้งภูมิทัศน์เมือง
จิตรกรรม ภาพนิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น